สิ่งที่สูบเข้าไปไม่ใช่แค่ควัน แต่คือ “ไอน้ำมันระเหย” ที่เข้าสู่เลือดใน 20 วินาที

 ผลกระทบต่อร่างกาย
 ปอด
ไอน้ำมันระเหยที่มีสารเคมีอันตราย เช่น สารหนู โลหะหนัก โพรไพลีนไกลคอล เข้าสู่จมูก ทางเดินหายใจ และปอด
เมื่อสารเคมีเหล่านี้เกาะที่ปอด ทำให้ระคายเคือง ระบบทางเดินหายใจ ไอโดยไม่มีสาเหตุ หรือไอเรื้อรัง หายใจติดขัด
เมื่อสารเคมีสะสม จะทำลายเนื้อเยื่อบุทางเดินหายใจและปอด

สมอง
เสพติดนิโคตินง่ายขึ้น: นิโคตินรบกวนการทำงานของโดปามีน ทำให้เกิดความต้องการนิโคตินเพิ่มขึ้นเพื่อความพึงพอใจ จึงเสพติดง่าย
กระทบอารมณ์และสุขภาพจิต: การขึ้นลงของโดปามีนและการขาดนิโคตินนำไปสู่อาการหงุดหงิดง่าย ฉุนเฉียว เครียดง่าย
ส่งผลต่อความจำและสมาธิ: นิโคตินรบกวนสารเคมีในร่างกาย ทำให้เกิดความกังวลจากการขาดนิโคติน โฟกัสยาก และเรียนรู้ได้แย่ลง
ทำลายการพัฒนาสมองวัยรุ่น: การเสพนิโคตินระยะยาวกระทบโครงสร้างสมอง รบกวนตัวรับและระบบสารสื่อประสาท ทำให้การเชื่อมต่อของสมองแย่ลง ส่งผลต่อการเรียนรู้และการจดจำ

ผิวหนัง (Vape Face)
ผิวแก่เร็ว: นิโคตินลดการไหลเวียนเลือด ทำให้ผิวขาดออกซิเจนและสารอาหาร เกิดริ้วรอยก่อนวัย
สิวและการอักเสบ: ความร้อนและสารเคมีเพิ่มการอักเสบของผิว ทำให้สิวเห่อหรือเป็นผดผื่น
ผิวหมองคล้ำ: สารพิษทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวไม่กระชับและสีผิวไม่สม่ำเสมอ
แผลหายช้า: การไหลเวียนเลือดที่ลดลงทำให้ผิวซ่อมแซมตัวเองได้ช้าลง เสี่ยงเป็นรอยหรือแผลเป็นนานกว่าเดิม
ผิวแห้ง: นำไปสู่ความผิดปกติอื่นๆ เช่น ผิวหนังอักเสบ สะเก็ดเงินแย่ลง
เสี่ยงมะเร็งผิวหนัง: เพิ่มความไวของผิวหนังต่อรังสียูวีจากแสงแดด ทำให้ผิวแก่เร็วและเพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งผิวหนัง

การเลิกสูบทั้งบุหรี่ไฟฟ้า และบุหรี่มวนคือวิธีป้องกันอันตรายที่ดีที่สุด เพราะสุขภาพปอดเสียแล้ว อาจไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิม

ที่มา คู่มือเตือนภัยเกี่ยวกับอันตรายที่ซ่อนอยู่ในบุหรี่ไฟฟ้า
https://creativehealthcampaign.thaihealth.or.th/cms/storage/articles/คู่มือ_บุหรี่ไฟฟ้ารู้ไว้ร้ายจัด_บุหรี่ไฟฟ้ທ__20250814_135424.pdf