3 นวัตกรรมจากเพื่อนภาคี ในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ

 

3 นวัตกรรมจากเพื่อนภาคี ในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ 

1.Dietz.asia ระบบการแพทย์ทางไกล 

ประเทศไทยกำลังเผชิญความท้าทายด้านสุขภาพครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นสังคมสูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่เพิ่มขึ้น และระบบสาธารณสุขที่แออัดมากกว่า 300 ล้านครั้งต่อปี ผู้ป่วยต้องใช้เวลารอนานกว่า 8 ชั่วโมง แต่ได้พบแพทย์เพียง 5 นาที ปัญหาเหล่านี้ชี้ชัดว่า เราต้องเร่งพัฒนาระบบสุขภาพดิจิทัล เพื่อยกระดับคุณภาพการดูแลรักษา  คุณพงษ์ชัย  เพชรสังหาร นายกสมาคมการค้าเฮลท์เทคไทย  เล่าเกี่ยวกับ Dietz ระบบการแพทย์ทางไกล ว่า

Dietz.asia ได้พัฒนาระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ที่ออกแบบให้เข้าถึงง่าย ใช้ได้กับทุกสิทธิการรักษา และเชื่อมโยงกับหน่วยบริการทั้งในเมืองและพื้นที่ห่างไกล จุดเด่นคือ

  • การแพทย์ทางไกลแบบไร้รอยต่อ: คนไข้สามารถเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ผ่าน Line OA, เว็บไซต์ หรือสถานี Telehealth ในชุมชน แม้ไม่มีสมาร์ทโฟนก็สามารถเข้าถึงได้
  • การดูแลโรคไม่ติดต่อ (NCDs): แพลตฟอร์มรองรับการประเมินสุขภาพด้วยตนเองและติดตามสุขภาพที่บ้าน มีทีมสหสาขาวิชาชีพคอยโค้ชและให้คำปรึกษา
  • PHR / Health Book and Health Dashboard
     สมุดสุขภาพดิจิทัล (PHR) และแดชบอร์ดสรุปผลสุขภาพส่วนบุคคล เชื่อมโยงข้อมูลจากทุกโมดูลเพื่อการติดตามผลแบบ Real-time
  • Teleconsultation Specialist
     รพ.ศูนย์ให้คำปรึกษาเฉพาะทางผ่าน Chat, Video Call, ส่งข้อมูลทางการแพทย์ เช่น ภาพ EKG/Lab
  • Telelab (LabMove)
    บริการเจาะเลือดที่บ้านหรือที่สถานีโดยนักเทคนิคการแพทย์มืออาชีพ รองรับผู้ป่วยติดเตียง ผู้ให้เคมีบำบัด ค่าใช้จ่ายตามระยะทาง เบิกจ่ายตามสิทธิ์ และผลส่งตรงสู่ระบบ HIS โรงพยาบาลใหญ่ เช่น ศิริราช รามาธิบดี จุฬาฯ
  • Auto-authentication / Pre-audit / e-Claim / Payment
     ลดภาระเอกสารในโรงพยาบาลด้วยระบบตรวจสอบอัตโนมัติ ส่งเคลมและรับชำระค่าบริการไร้รอยต่อ
  • Medicine Delivery / Self-kit collection
     ส่งยาและอุปกรณ์ตรวจสุขภาพถึงบ้านผ่านไปรษณีย์ พนักงานจัดส่ง และบริการ Health Rider ที่กำลังจะเปิดให้บริการ ลดภาระงานจัดส่งและติดตามสถานะสินค้าอัตโนมัติ
  • Dietz Healthmap
     แผนที่สุขภาพเชิงพื้นที่ แสดงพิกัดผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง โรคเรื้อรัง โรคติดต่อ และผู้ติดบ้านติดเตียง ช่วยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขบริหารจัดการทรัพยากรได้แม่นยำยิ่งขึ้น

ผลงานและเครือข่ายที่สร้างผลกระทบเชิงสาธารณสุข

  • AI อ่านฟิล์มเอ็กซ์เรย์ กว่า 4.2 ล้านภาพ ช่วยให้การวินิจฉัยแม่นยำขึ้น
  • Telemedicine กับ สปสช. กว่า 1 ล้านครั้ง ครอบคลุมร้านยาและคลินิกกว่า 2,000 แห่ง
  • ร่วมพัฒนาเครือข่าย สตาร์ทอัพเฮลท์เทค กว่า 200 องค์กร แต่ยังต้องเติบโตด้านรายได้ไม่เกิน 1,000 ล้านบาท
  • สนับสนุนการขึ้นทะเบียน AI ทางการแพทย์ ร่วมกับ อย. จนได้เครื่องมือแพทย์ปัญญาประดิษฐ์ 2 รายการแรกของไทย (Perceptra)

Dietz เชื่อมต่อทุกระดับบริการสุขภาพ

ระบบของ Dietz ออกแบบมาเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลและการรักษาจากระดับบ้าน ไปยัง รพ.สต., รพ.ชุมชน จนถึงโรงพยาบาลศูนย์ ขยายโอกาสให้ผู้ป่วยเข้าถึงแพทย์เฉพาะทางได้ง่ายขึ้น แม้ในพื้นที่ขาดแคลนบุคลากร และยังช่วยลดภาระงานบุคลากรสาธารณสุข ผ่านกระบวนการ Auto authentication, e-Claim, การส่งยา และการเก็บผลตรวจเข้าสู่ระบบ HIS ของโรงพยาบาลโดยอัตโนมัติ

อนาคตของ Telehealth ในไทย

การสร้างแพลตฟอร์มแบบ Healthmap ที่ติดตามข้อมูลสุขภาพทั้งจังหวัด รวมถึงการพัฒนาระบบ Health Rider สำหรับส่งยาและอุปกรณ์สุขภาพถึงบ้าน คือการต่อยอดที่มุ่งสู่การสร้าง “ระบบสุขภาพแบบไร้รอยต่อ” ครอบคลุมตั้งแต่การป้องกันไปจนถึงการรักษา

2.แอปพลิเคชัน SAANSOOK Digital Health Platform

รศ.ดร.ชูจิต ตรีรัตนพันธ์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ผู้ออกแบบแอปพลิเคชัน SAANSOOK Digital Health Platform เล่าว่า SAANSOOK มีฟังก์ชันการทำงานหลัก คือ การติดตามพฤติกรรมสุขภาพ การวิเคราะห์ข้อมูล และการให้คำแนะนำที่เป็นส่วนบุคคล เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดีขึ้นในระยะยาว มากไปกว่านั้นยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการรวบรวมข้อมูลสุขภาพที่ครอบคลุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมสุขภาพของคนไทย แพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งนำไปใช้ในการคาดการณ์แนวโน้มสุขภาพโดยรวมของประชากรได้ ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์นี้เป็นทรัพยากรที่สำคัญในการกำหนดนโยบายและสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตที่หลากหลายของประชาชน

นอกจากนี้ การรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมสุขภาพของผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มนี้อย่างต่อเนื่อง จะทำหน้าที่เป็นฐานข้อมูลสุขภาพสำหรับคนไทย ซึ่งสามารถคาดการณ์แนวโน้มสุขภาพโดยรวม และกำหนดนโยบายเพื่อสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตที่หลากหลาย

สำหรับกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้งาน  ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ได้แก่ องค์กร ส่งเสริมให้พนักงานในองค์กรมีส่วนร่วมในกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพต่างๆ เพื่อสร้างบรรยากาศการทำงานที่เอื้อต่อสุขภาพที่ดี ชุมชน มุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมสุขภาพในระดับชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่อาจขาดความรู้และเข้าถึงเทคโนโลยีน้อยกว่ากลุ่มอื่นๆ นักเรียน สนับสนุนให้ตระหนักถึงสุขภาพของตนเองมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในวัยเรียน เช่น ดัชนีมวลกาย (BMI) การสร้างกล้ามเนื้อ การลดน้ำหนัก และสุขภาพโดยรวม โรงพยาบาล ใช้เป็นฐานข้อมูลสุขภาพเพื่อช่วยในการดูแลผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรัง คลินิกสุขภาพ ช่วยอำนวยความสะดวกในการบันทึกข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วย

จุดเด่นของแพลตฟอร์ม SAANSOOK

สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน ครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเริ่มต้นจนถึงการบรรลุเป้าหมาย ผู้ใช้งานสามารถเข้าร่วมกลุ่มชุมชนเพื่อแบ่งปันประสบการณ์และได้รับแรงบันดาลใจจากผู้อื่น ช่วยให้ผู้ใช้เห็นภาพรวมของสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ และไม่เพียงแค่ช่วยให้ผู้ใช้งานบรรลุเป้าหมายในระยะสั้น แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้งานพัฒนานิสัยที่ดีต่อสุขภาพในระยะยาว

แพลตฟอร์ม SAANSOOK สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ยอดนิยม เช่น Garmin, Fitbit, Apple Health, Google Fit และ Huawei เพื่อรวบรวมข้อมูลสุขภาพของผู้ใช้ นอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลยี AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลอาหารและสุขภาพ เพื่อให้คำแนะนำที่แม่นยำและตรงตามความต้องการของผู้ใช้ ด้านภาคีเครือข่ายที่ร่วมมือกันขับเคลื่อน เช่น ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและเครือข่ายองค์กรเพื่อส่งเสริมสุขภาพในสถานที่ทำงาน เชื่อมโยงกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเข้าถึงข้อมูลสุขภาพระดับชาติและทรัพยากรต่างๆ ร่วมมือกับภาคเอกชน เช่น ร้านอาหาร แฟรนไชส์ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ส่งเสริมสุขภาพ

3.MENTAL HEALTH CHECK IN: เครื่องมือดูแลสุขภาพใจในองค์กรยุคใหม่

ในยุคที่ความเครียดและภาวะซึมเศร้าเริ่มกลายเป็นปัญหาสุขภาพจิตที่พบได้บ่อยในกลุ่มคนทำงาน เครื่องมือที่ช่วยประเมินและดูแลสุขภาพใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ หนึ่งในเครื่องมือที่ตอบโจทย์ได้อย่างครบถ้วนคือ MENTAL HEALTH CHECK IN ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยกรมสุขภาพจิต เพื่อให้การคัดกรองและติดตามสุขภาพจิตในองค์กรเป็นเรื่องง่ายและเข้าถึงได้ คุณศุทธานันท์ ยะปะนันท์ นักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการ ศูนย์สุขภาพจิตที่ 13 สรุปการทำงานของ MENTAL HEALTH CHECK IN ไว้ว่า

MENTAL HEALTH CHECK IN คืออะไร?

จุดเริ่มต้นของ MENTAL HEALTH CHECK IN มาจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของประชาชนและบุคลากรสาธารณสุขอย่างกว้างขวาง ระบบนี้ถูกพัฒนาให้สามารถประเมินสุขภาพจิตทั้งในระดับบุคคลและองค์กร เช่น หน่วยงานราชการ เอกชน และสถาบันการศึกษา โดยสามารถคัดกรองกลุ่มเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การตรวจสุขภาพใจจะประกอบไปด้วยแบบประเมินสำคัญ เช่น

  • วัดพลังใจ
  • วัดภาวะเหนื่อยล้า หมดไฟ
  • วัดความเครียด
  • คัดกรองภาวะซึมเศร้าและความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย
  • คัดกรองโรคซึมเศร้า
  • ประเมินการฆ่าตัวตาย

    ผลการประเมินจะปรากฏทันที พร้อมคำแนะนำในการปฏิบัติตัว และช่องทางการขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ

จุดเด่นสำหรับองค์กร

  • ระบบจัดการง่าย: แต่ละองค์กรสามารถสมัครใช้งานผ่านระบบออนไลน์ และจัดการข้อมูลได้เอง
  • รายงานเชิงลึก: มีรายงานสรุปทั้งภาพรวมและรายบุคคล สามารถดาวน์โหลดข้อมูลเพื่อวิเคราะห์และวางแผนดูแลสุขภาพจิตบุคลากรได้
  • การประเมินต่อเนื่อง: มีการสร้าง QR Code เฉพาะให้องค์กร สามารถเผยแพร่ให้พนักงานทำแบบประเมินได้อย่างต่อเนื่อง

กรมสุขภาพจิตยังได้ออกแบบกิจกรรม MHC 13 ON TOUR 2025 เสริมสร้างความรู้ด้านสุขภาพจิตในสถานประกอบการ ในปีงบประมาณ 2568 เพื่อเพิ่มทักษะการดูแลสุขภาพใจของพนักงาน ผ่านกิจกรรมอบรมและเวิร์กช็อปต่าง ๆ ได้แก่

  • การจัดการความเครียด
  • การสร้างความสุขในที่ทำงาน
  • การเสริมสร้างสัมพันธภาพที่ดีในองค์กร

ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพใจสามารถโปรปรึกษาปัญหาทางใจได้ที่ 1.สายด่วนสุขภาพจิต 1323 2. inbox facebook 1323 ปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต 3.จองคิวขอรับคำปรึกษา

การใช้เทคโนโลยีในโลกสุขภาพไม่ควรจำกัดอยู่เพียงในโรงพยาบาลหรือหน่วยบริการ แต่ควรแทรกซึมไปยังพื้นที่การทำงานของภาคี องค์กร ชุมชน และประชาชน เวทีนี้จึงเสมือนพื้นที่สร้างความเข้าใจและความร่วมมือ เพื่อวางรากฐานสู่ระบบสุขภาพที่ยั่งยืน

 

ที่มา : เวทีเสวนาวิชาการหัวข้อ “เทคโนโลยีดิจิทัล: แนวโน้มและการปรับใช้ของโลกสุขภาพ” จัดโดย สภส. ร่วมกับ วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  วันที่ 8 พฤษภาคม 2568

Shares:
QR Code :
QR Code