สสส.จัดงานสร้างสุขภาคใต้ครั้งที่ 14 รวมพลังภาคีเครือข่ายภาคใต้ 14 จังหวัด กว่า 1,000 คน ผลักดันข้อเสนอเชิงนโยบายสร้างความมั่นคง 4 มิติ สู่ภาคใต้แห่งความสุขอย่างยั่งยืน
สสส.จัดงานสร้างสุขภาคใต้ครั้งที่ 14 รวมพลังภาคีเครือข่ายภาคใต้ 14 จังหวัด กว่า 1,000 คน ผลักดันข้อเสนอเชิงนโยบายสร้างความมั่นคง 4 มิติ สู่ภาคใต้แห่งความสุขอย่างยั่งยืน
เวทีสร้างสุขภาคใต้ครั้งที่ 14 จัดไปอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 18-20 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์ประชุมเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีพันธมิตร อาทิ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน รวมภาคีเครือข่ายกว่า 1,000 ภาคี จาก 137 เครือข่าย 14 จังหวัด ขับเคลื่อนสุขภาวะ 4 มิติ ภายใต้แนวคิด 20 ปี ปลุกพลังวิถีถิ่นใต้ สู่สุขภาวะแห่งอนาคต
งานสร้างสุขภาคใต้ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา ได้ทำหน้าที่เป็น “พื้นที่กลาง” ของภาคีเครือข่ายสุขภาวะที่ร่วมกันผลักดันนโยบายสาธารณะใน 4 ประเด็นหลัก คือ ความมั่นคงทางอาหาร ความมั่นคงทางสุขภาพ ความมั่นคงทางมนุษย์ และความมั่นคงทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อบรรลุเป้าหมาย “ภาคใต้แห่งความสุข” ตลอด 13 ครั้งที่ผ่านมา งานสร้างสุขภาคใต้ได้พัฒนาเส้นทางจากเวที “โชว์ แชร์ เชื่อม” ที่เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ของเครือข่ายสุขภาพและประชาสังคม สู่กระบวนการสมัชชาสุขภาพที่นำเครื่องมือทางกฎหมายและกระบวนการนโยบายสาธารณะเข้ามาใช้ ประกอบเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายที่สามารถขับเคลื่อนได้จริง อาทิ การพัฒนาชุมชนสีเขียวเพื่อความมั่นคงทางอาหาร การจัดตั้งกองทุนสุขภาวะระดับจังหวัด การเตรียมรับมือสังคมสูงวัย และการผลักดันเขตอนุรักษ์โดยชุมชน เช่น ศาลาด่านโมเดล และ มะรุ่ยแห่งความสุข
สำหรับปีที่ 20 งานสร้างสุขภาคใต้ได้กำหนด 4 ประเด็นหลักในการขับเคลื่อน ได้แก่ การจัดการปัญหาบุหรี่ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และสุขภาพจิตในประเด็นความมั่นคงทางสุขภาพ การสานพลัง “5 ดี” เพื่อยกระดับความมั่นคงทางมนุษย์ การพัฒนาระบบเกษตรและอาหารยั่งยืนเพื่อสุขภาวะ และการสร้างดุลยภาพทรัพยากรจากภูผาสู่มหานทีเพื่อความมั่นคงทางสิ่งแวดล้อม โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 คน จากเครือข่ายใน 14 จังหวัด ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ท้องถิ่น นักวิชาการ เยาวชน และสื่อสร้างสุข ภารกิจสำคัญของเวทีนี้คือการเชื่อมพลังทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับข้อเสนอเชิงนโยบายให้เกิดผลลัพธ์ในระดับพื้นที่และระดับชาติ
นายแพทย์พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวเปิดงานสร้างสุขภาคใต้ ครั้งที่14 และ ปาฐกถา เรื่อง “20 ปี ปลุกพลัง วิถีถิ่นใต้ สู่สุขภาวะแห่งอนาคต” ว่า เวทีสร้างสุขภาคใต้ครั้งที่ 14 จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมความสุขและสุขภาวะที่ดีในภาคใต้ โดยเน้นการสร้าง ความมั่นคง 4 ด้าน ได้แก่ ความมั่นคงทางอาหาร ความมั่นคงทางสุขภาพ ความมั่นคงทางมนุษย์ และความมั่นคงทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของภาคีเครือข่ายและความร่วมมือจากหลากหลายภาคส่วนในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและแก้ไขปัญหาสุขภาวะที่ซับซ้อนของพื้นที่ภาคใต้ โดยใช้ข้อมูลเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจและส่งเสริมการจัดการตนเองของชุมชน
“การจัดงานมีเป้าหมายเพื่อสร้างให้เกิดภาคใต้แห่งความสุข การจะทำให้ภาคใต้มีความสุขได้ ต้องสร้างให้เกิดความมั่นคง 4 ด้าน ทั้งนี้การดำเนินงานสร้างเสริมสุขภาพในระดับพื้นที่จะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงปัจจัยกำหนดสุขภาพในอนาคต เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี และการเกิดโรคอุบัติใหม่ การเดินทางของ “ใต้สร้างสุข” เริ่มต้นในปี 2549 ด้วยเวที “โชว์ แชร์ เชื่อม” เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างเครือข่าย จนมาสู่ปัจจุบันที่มุ่งเน้นการปลุกพลังวิถีถิ่นใต้สู่สุขภาวะแห่งอนาคต โดยการ “ส่งต่อความสุข” และสร้างให้เกิด “ภาคใต้แห่งความสุข” มีเป้าหมายหลักคือ “สร้างให้คนใต้กินดี อยู่ดี มีความสุข มีสิ่งแวดล้อมดี และสร้างอำนาจร่วมในการจัดการตนเองของคนใต้”
ในเวทีนี้ยังสะท้อนสถานการณ์ท้าทายด้านสุขภาวะของภาคใต้ ทั้งผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัญหาภัยพิบัติ การพึ่งพาการเกษตรที่เสี่ยงต่อเศรษฐกิจ โรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงภาคใต้มีอัตราการสูบบุหรี่สูงที่สุดในประเทศไทย ประมาณ 22.1% ของประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป หรือประมาณ 1.7 ล้านคน และมีการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเยาวชนอย่างรวดเร็ว ขณะที่ข้อมูลการเสียชีวิตและอายุคาดเฉลี่ยบ่งชี้ว่าภาคใต้ยังเผชิญปัญหาสุขภาพรุนแรง เช่น โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจในวัยหนุ่มสาว การก้าวสู่สุขภาวะแห่งอนาคต จำเป็นของการทำงานเชิงรุกด้วยข้อมูล (Data Driven) ซึ่ง สสส. มีนโยบายการขับเคลื่อนงานด้วยข้อมูล หมายถึงการนำข้อมูลปัญหาสุขภาวะในระดับพื้นที่กลับคืนสู่ชุมชน เพื่อให้ชุมชนรับรู้และจัดการตนเองได้ ต้องอาศัยการขับเคลื่อนด้วยพลังเครือข่ายจากทุกภาคส่วน
ผู้จัดการ สสส. ย้ำว่า ความสุขอยู่ในมือเรา และเริ่มต้นจากตัวเรา ความสุขไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงิน แต่คือความสุขที่ยิ่งให้ยิ่งได้ โดยเฉพาะความสุขที่ได้เห็นผู้อื่นมีความสุข อันเป็น “สุขภาวะทางปัญญา” ตามแนวคิดของ ศ.นพ.ประเวศ วะสี เวทีสร้างสุขจึงไม่เพียงเป็นการถอดบทเรียนและแลกเปลี่ยนเชิงนโยบาย แต่ยังเป็นการรวมพลังแห่งความรัก ความเอื้ออาทร และจิตอาสาของคนใต้ เพื่อขับเคลื่อนสุขภาวะจากล่างขึ้นบน โดยมี สสส. ทำหน้าที่ “เชียร์ แชร์ และเชื่อม” ให้ทุกพลังในสังคมร่วมกันสร้างภาคใต้แห่งความสุขอย่างยั่งยืน
ดร.ประกาศิต กายะสิทธิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการอาวุโส และรักษาการผู้อำนวยการสำนักพัฒนาภาคีสัมพันธ์และวิเทศสัมพันธ์ สสส. กล่าวถึง ทิศทางการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาวะในภาคใต้ว่า จำเป็นต้องมองในภาพใหญ่ของระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่มีหลายองค์ประกอบเชื่อมโยงกัน โดย สสส. มองเห็นกลไกการขับเคลื่อนสำคัญ 4 ส่วน ได้แก่ เชิงนโยบาย จุดจัดการ ปฏิบัติการ และการสนับสนุน ซึ่งแต่ละองค์กรและภาคีเครือข่ายจะมีบทบาทร่วมกันด้วยน้ำหนักที่แตกต่างกัน นโยบายถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่เปรียบเสมือนการเปิดประตู ให้ระบบต่างๆ เชื่อมต่อกันได้ ทั้งระบบงบประมาณ ระบบติดตามประเมินผล และระบบข้อมูล เพราะหากไม่มีนโยบายรองรับ การทำงานเชิงยุทธศาสตร์ก็จะไม่สามารถบูรณาการได้อย่างแท้จริง
ในส่วนของการจัดการ ดร.ประกาศิต ชี้ว่าเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อช่วยลดต้นทุนทางอ้อม (Overhead) จากการทำงานที่กระจัดกระจาย การมีจุดจัดการ เช่น แผนจังหวัดหรือยุทธศาสตร์ชาติจะทำให้การเชื่อมโยงงบประมาณ กำลังคน และกระบวนการปฏิบัติงาน ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ขณะที่การปฏิบัติการในพื้นที่ส่วนใหญ่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของภาคใต้ที่ชุมชนเป็นเจ้าของประเด็น ไม่ผูกติดกับแหล่งทุนใดเพียงแห่งเดียว และสามารถเชื่อมโยงไปยังหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนได้ด้วยตนเอง
“ภาคีเครือข่ายภาคใต้มีจุดแข็งคือ เป็นเจ้าของประเด็นในการตั้งโจทย์ และออกแบบปฏิบัติการเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง ในการแก้ไขปัญหาสุขภาพของภาคใต้ตามบริบทของตนเอง และ สสส.ในฐานะผู้สนับสนุน ดีใจที่ได้เห็นการสานพลังของภาคีเครือข่ายที่สามารถเชื่อมต่อแหล่งทุนและการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน รวมถึงทำงานข้ามประเด็น ข้ามพื้นที่ เพื่อขับเคลื่อนภาคใต้ไปสู่ความสุขที่ยั่งยืน
การสนับสนุนจะเกิดผลจริงก็ต่อเมื่อมีการตั้งเป้าร่วมกัน มีแผนปฏิบัติการร่วม และมีการจัดทำ Roadmap ที่ชัดเจน เพื่อให้การออกแบบการสนับสนุนสอดคล้องกับความต้องการในทุกระดับ ดังนั้นการขับเคลื่อนงานสุขภาวะในอนาคตจะไม่อาจสำเร็จได้ด้วยองค์กรใดองค์กรหนึ่ง แต่ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันบนฐานของระบบนิเวศที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกันอย่างแท้จริง”
ในวาระครบรอบ 20 ปีของการขับเคลื่อนงานด้านสุขภาวะในภาคใต้ ประเด็นสำคัญที่ได้รับการเน้นย้ำจาก ดร.เพ็ญ สุขมาก ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คือการสร้างนิยามที่ชัดเจนของ “ภาคใต้แห่งความสุข” ซึ่งหมายถึง พื้นที่กลางที่ภาคีเครือข่ายมาร่วมกันสานพลังในการขับเคลื่อนงาน ผ่านตัวชี้วัดที่เป็นรูปธรรม 4 ด้าน ได้แก่ การกินดี การอยู่ดี สิ่งแวดล้อมดี และการมีความสุข
การบรรลุเป้าหมายทั้ง 4 ด้านตั้งอยู่บนรากฐานของความมั่นคงที่เกื้อหนุนกัน 4 ประการ คือ 1. ความมั่นคงทางอาหาร ขับเคลื่อนระบบเกษตรและอาหารที่ยั่งยืน 2. ความมั่นคงทางมนุษย์ สานพลัง ‘5D’ สู่วิถีความสุข ให้ทุกกลุ่มวัยได้เข้าถึง การเรียนดี ดูแลดี เศรษฐกิจดี ที่อยู่อาศัยดี และสังคมดี 3. ความมั่นคงทางสุขภาพ เน้นการสร้างเสริมสุขภาพทุกกลุ่มวัย และป้องกันปัญหาบุหรี่ โรคไม่ติดต่อ และสุขภาพจิต 4. ความมั่นคงทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผลักดันการจัดการทรัพยากร ‘จากภูผาสู่มหานที’ รวมถึงการบริหารจัดการภัยพิบัติ และการท่องเที่ยวโดยชุมชน ซึ่งทั้งหมดเชื่อมโยงเข้ากับเป้าหมายหลักด้านสุขภาวะของภูมิภาคอย่างเป็นระบบ
สิ่งที่ทำให้การดำเนินงานครั้งนี้โดดเด่น คือ การสร้างความร่วมมือแบบพหุภาคีระหว่างสถาบันอุดมศึกษา หน่วยงานรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม โดยมีสำนักพัฒนาภาคีสัมพันธ์และวิเทศสัมพันธ์ สสส. (สภส.) กำหนดให้สถาบันนโยบายสาธารณะ ม.อ. เป็นกลไกวิชาการกลาง เชื่อมร้อยภาคีเครือข่าย 14 จังหวัดภาคใต้ เพื่อร่วมกันคิด วิเคราะห์ และขับเคลื่อนด้วยกระบวนการและเครื่องมือทางวิชาการ
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือการมุ่งสู่ความยั่งยืนผ่านการบูรณาการงานเข้าสู่ “กลไกปกติ” ของหน่วยงาน โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นการบรรจุในแผนพัฒนาจังหวัด แผนพัฒนากลุ่มจังหวัด แผนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือข้อบัญญัติท้องถิ่น ซึ่งจะทำให้งานไม่หยุดเพียงโครงการเฉพาะกิจ แต่สามารถดำเนินต่อได้ด้วยตนเอง
ดร.เพ็ญ ยังย้ำว่าเวทีสร้างสุขภาคใต้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการ เพราะความเคลื่อนไหวที่แท้จริงเกิดขึ้นต่อเนื่องทั้งก่อน ระหว่าง และหลังงาน โดยก่อนงานมีการหยิบข้อเสนอเชิงนโยบายมาร่วมถอดบทเรียน ระหว่างงานเป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์และสร้างความสัมพันธ์ และหลังงานจะมีการสรุปบทเรียนเพื่อจัดทำ Road Map รายประเด็นและของภาคใต้สำหรับการขับเคลื่อนต่ออีกปีครึ่ง ก่อนที่จะวนกลับเข้าสู่การเรียนรู้รอบใหม่ กระบวนการนี้สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องควบคู่กับความสัมพันธ์ฉันพี่น้องและบรรยากาศแห่งมิตรภาพ ซึ่งล้วนเป็นหัวใจสำคัญของ “ภาคใต้แห่งความสุข” ที่กำลังถูกหล่อหลอมขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในวันนี้