สรุปประเด็นประเทศสมาชิก INHPF2024 เสนอกลยุทธ์ขับเคลื่อนสุขภาพประชาชน เน้นลดปัญหาเด็กอ้วน ภาวะที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ
สวัสดีเพื่อนภาคีครับบบบบ….
น้ องบัดดี้นำประเด็นที่น่ าสนใจมาฝากทุกท่านอีกเช่นเคยครั บ อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจมากๆ
ในการประชุม INHPF2024 ณ รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
คือ ปัญหาเด็กอ้วน ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ
.
รู้หรือไม่ครับว่า…เกือบหนึ่ งในห้าของเด็กทั่วโลกมีน้ำหนั กเกินหรือเป็นโรคอ้วน
ซึ่งรวมถึงเด็กอายุต่ำกว่าห้ าขวบ 39 ล้านคน และเด็กอายุ 5-19 ปี 340 ล้านคนครับ
.
ในหัวข้อนี้มีหลายประเทศที่ได้ เข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธี การขับเคลื่อนงานส่งเสริมสุ ขภาพของประชาชน
โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและวัยรุ่น ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย
.
.
น้องบัดดี้สรุปให้
1.สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้ างเสริมสุขภาพ (สสส.)
1.สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้
ในประเทศไทย พบว่า ปี 2566 คนไทยกว่า 48.35% มีภาวะน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้ วน โดยเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
มีภาวะอ้วนร้อยละ 8.98 อายุ 5-18 ปี อัตราอ้วนอยู่ที่ร้อยละ 13.72 เพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพและคุ ณภาพชีวิตของเด็กในระยะยาว
สสส. จึ งกำหนดแนวทางและมาตรการในการแก้ ไขปัญหา ประกอบด้วย
• ส่งเสริมการบริโภคอาหารสุขภาพที่ มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น เช่น ผัก ผลไม้ และธัญพืช
• ส่งเสริมการบริโภคอาหารสุขภาพที่
และลดบริโภคอาหารที่มีรสจัดทั้ งหวาน มัน เค็ม
• ส่งเสริมกิจกรรมทางกาย การดูแลสุขภาพก่อนการตั้งครรภ์ และระหว่างตั้งครรภ์
เพื่อดูแลสุขภาพของแม่ตั้งครรภ์ ซึ่งมีผลต่อสุขภาพของเด็ กในระยะยาว
• อาหารและกิจกรรมทางกายในวัยเด็ กปฐมวัย สุขภาพ โภชนาการ
• กิจกรรมทางกายสำหรับเด็กวัยเรี ยน
• การจัดการน้ำหนักของเด็กที่มีน้ำ หนักเกินหรืออ้วน
.
สสส.สานพลังร่วมกับภาคีเครือข่ าย เช่น เด็กไทยแก้มใส ขับเคลื่อนงานภายใต้ยุทธศาสตร์ ไตรพลัง คือ
สสส.สานพลังร่วมกับภาคีเครือข่
พลังนโยบาย มุ่งเน้นการผลักดั นนโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวข้ องกับการลดปัจจัยเสี่ ยงของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
เช่น การห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มที่มี น้ำตาลในโรงเรียน การเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำ ตาล การปรับปรุงโครงการอาหารกลางวั นในโรงเรียน
และการมีแผนส่งเสริมกิ จกรรมทางกายระดับชาติ
.
พลังวิชาการ สร้างฐานข้อมูลและการวิจัยเพื่ อนำมาใช้ในการวางแผนและดำเนิ นงาน เช่น การสำรวจพฤติกรรมการออกกำลั งกายของประชาชน
พลังวิชาการ สร้างฐานข้อมูลและการวิจัยเพื่
การพัฒนาระบบเฝ้าระวังโรค และการสร้างสื่อประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชน
.
พลังทางสังคม สร้างการมีส่วนร่วมของชุ มชนในการดำเนินกิจกรรมส่งเสริ มสุขภาพ เช่น การรณรงค์ให้ประชาชนบริโภคผั กผลไม้ให้มากขึ้น
พลังทางสังคม สร้างการมีส่วนร่วมของชุ
การส่งเสริมให้ประชาชนออกกำลั งกายอย่างสม่ำเสมอ และการสร้างเครือข่ายภาคีเครื อข่ายเพื่อทำงานร่วมกัน
นโยบายขับเคลื่อนด้านอาหาร ที่ สสส. และภาคีเครือข่ายได้ร่วมกันผลั กดัน
เพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพที่เกิ ดจากการบริโภคอาหารที่ไม่ดีต่ อสุขภาพ เช่น
• การจัดเก็บภาษีน้ำหวาน (SSB Tax) เก็บภาษีจากเครื่องดื่มที่มีน้ำ ตาลสูง
• การจัดเก็บภาษีน้ำหวาน (SSB Tax) เก็บภาษีจากเครื่องดื่มที่มีน้ำ
เพื่อลดการบริโภคและส่งเสริมให้ ผู้บริโภคหันไปเลือกเครื่องดื่ มที่มีน้ำตาลน้อยลง • ห้ามใช้ไขมันทรานส์ในอาหารทุ กชนิด
• ฉลากโภชนาการ เป็นการบังคับให้ผู้ผลิ ตแสดงฉลากโภชนาการบนผลิตภัณฑ์ อาหาร
• ฉลากโภชนาการ เป็นการบังคับให้ผู้ผลิ
เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเปรี ยบเทียบและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ เหมาะสมกับสุขภาพของตนเอง
• โรงเรียนปลอดน้ำอัดลม เป็นนโยบายที่ส่งเสริมให้โรงเรี ยนงดจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีน้ำ ตาล เพื่อส่งเสริมสุขภาพของนักเรียน
• กลยุทธ์ลดโซเดียม เพื่อลดปริมาณโซเดียมในอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่ อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง
• ควบคุมการตลาดอาหารสำหรับเด็ก โดยควบคุ มการโฆษณาและการตลาดอาหารที่ไม่ ดีต่อสุขภาพสำหรับเด็ก
• สนับสนุนการให้นมแม่ ซึ่งเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรั บทารก
ด้านกลยุทธ์ส่งเสริมกิ จกรรมทางกาย (Physical Activity) ในประชากรทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็ กและเยาวชน
สสส.สานพลังร่วมกับภาคีเครือข่ ายทุกภาคส่วนส่งเสริมกิ จกรรมทางกายอย่างต่อเนื่อง เช่น
• เกิดแผนงานส่งเสริมกิ จกรรมทางกายระดับชาติ (National PA Strategy)
เพื่อกำหนดทิศทางและเป้ าหมายในการส่งเสริมกิ จกรรมทางกายในระยะยาว
• ร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น องค์การอนามัยโลก (WHO)
• ร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น องค์การอนามัยโลก (WHO)
และสมาคมนานาชาติเพื่อการกิ จกรรมทางกายและสุขภาพ (ISPAH) เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และนำองค์ความรู้มาประยุกต์ใช้
• ส่งเสริมให้มีพื้นที่ สาธารณะสำหรับออกกำลังกาย และมีการปรับปรุงสภาพแวดล้ อมในโรงเรียนและชุมชนให้เอื้อต่ อการออกกำลังกาย
• นำเทคโนโลยีมาใช้ในการส่งเสริ มกิจกรรมทางกาย เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับติ ดตามกิจกรรมทางกาย
• ส่งเสริมให้มีพื้นที่
• นำเทคโนโลยีมาใช้ในการส่งเสริ
สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกั บความสำคัญของกิจกรรมทางกายผ่ านสื่อต่างๆ
ด้านแคมเปญโฆษณาที่สร้างการรั บรู้ให้กับประชาชนและกระตุ้ นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริ โภค ได้แก่
• กินอย่างไรให้ติดหวานน้อยลง โดยเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน
• กินอย่างไรให้ติดหวานน้อยลง โดยเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน
เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริ โภคของเด็กไทยให้หันมาบริ โภคอาหารที่มีน้ำตาลน้อยลง
ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติ ดต่อเรื้อรัง
• ลดพุง ลดโรค เพื่อตระหนักให้คนไทยเห็นถึ งความสำคัญของการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะปัญหาโรคอ้วนลงพุง
• แคมเปญ “บริโภคผักผลไม้วันละ 400 กรัม” เพื่อส่งเสริมให้คนไทยทุกคนหั นมาบริโภคผักผลไม้ให้มากขึ้น
• ลดพุง ลดโรค เพื่อตระหนักให้คนไทยเห็นถึ
• แคมเปญ “บริโภคผักผลไม้วันละ 400 กรัม” เพื่อส่งเสริมให้คนไทยทุกคนหั
รวมถึงแคมเปญโฆษณาที่ส่งเสริ มการมีกิจกรรมทางกายในเด็กไทย
• สามเหลี่ยมสมดุล โดยส่งเสริมการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย และการนอนหลับ
• ส่งเสริมให้เด็กเล่นออกกำลั งกายอย่างน้อย 60 นาทีต่อวัน
• ส่งเสริมการกินอาหารให้ครบสัดส่ วน
• สามเหลี่ยมสมดุล โดยส่งเสริมการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย และการนอนหลับ
• ส่งเสริมให้เด็กเล่นออกกำลั
• ส่งเสริมการกินอาหารให้ครบสัดส่
2.Singapore Health Promotion Board ประเทศสิงคโปร์
สิงคโปร์พบ ปัญหาเด็กอ้วนเริ่มต้นตั้งแต่ อายุ 5 ขวบ และเด็กที่อ้วนตั้งแต่อายุ 7 ขวบ มีแนวโน้มที่จะยังคงมีน้ำหนั กเกินเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ถึง 70% ปัจจัยที่ส่งผลให้เด็กอ้วน เช่น การขาดการออกกำลังกาย การใช้เวลาหน้าจอนานเกินไป การรับประทานอาหารไม่ถูกต้อง และการดื่มเครื่องดื่มที่ ทำลายสุขภาพ
สิงคโปร์พบ ปัญหาเด็กอ้วนเริ่มต้นตั้งแต่
สิงคโปร์ให้ความสำคัญของการขั บเคลื่อนงานร่วมกันในหลายภาคส่ วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ครอบครัว โรงเรียน และชุมชน
โดยการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ อให้เด็กมีสุขภาพดีไปตลอดชีวิต และส่งเสริมพฤติกรรมที่ดี
เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิ ดลดปัญหาโรคอ้วนและโรคไม่ติดต่อ (NCDs) เช่น
• กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เน้นการบริโภคผัก ผลไม้ ธัญพืช และโปรตีนจากแหล่งที่ดี
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ
• ควบคุมการใช้หน้าจอ มีการจัดตารางเวลาในการใช้หน้ าจออย่างเหมาะสม
• นอนหลับให้เพียงพอ ช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมและฟื้ นฟูทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เน้นการบริโภคผัก ผลไม้ ธัญพืช และโปรตีนจากแหล่งที่ดี
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ
• ควบคุมการใช้หน้าจอ มีการจัดตารางเวลาในการใช้หน้
• นอนหลับให้เพียงพอ ช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมและฟื้
แนวทางการดำเนินการลดปัญหาเด็ กอ้วนของสิงคโปร์ มุ่งไปที่การปลูกฝังพฤติกรรมที่ ส่งเสริมสุขภาพที่ดีตั้งแต่เด็ก
ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ ยวกับพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกาย การใช้เวลาหน้าจอ และการนอนหลับของเด็ก
เพื่อวางแผนและดำเนินการเพื่ อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้อย่ างตรงจุด และสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุ นให้เด็กมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี
3.Tonga Health Promotion Foundation ประเทศตองกา
ประเทศตองกา มองว่า ปัญหาเด็กอ้วน เป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญและส่
จึงได้มีการวางนโยบายในการแก้ ไขปัญหาสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับเคลื่ อนนโยบายแก้ปัญหาเด็กอ้ วนประกอบด้วย
• นโยบายอาหารในโรงเรียน เน้นการปรับปรุงอาหารกลางวั นในโรงเรียนให้มีคุณค่ าทางโภชนาการมากขึ้น
• นโยบายอาหารในโรงเรียน เน้นการปรับปรุงอาหารกลางวั
เช่น เพิ่มปริมาณผัก ผลไม้ ลดปริมาณอาหารแปรรูปและอาหารที่ มีน้ำตาลสูง
• นโยบายด้านสุขภาพ เน้นการส่งเสริมสุ ขภาพของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและเยาวชน เช่น
• นโยบายด้านสุขภาพ เน้นการส่งเสริมสุ
การส่งเสริมการออกกำลังกาย การให้ความรู้เกี่ยวกับโภชนาการ
• นโยบายภาษี โดยปรับขึ้นภาษีสินค้าที่ไม่ดี ต่อสุขภาพ เช่น เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง อาหารขยะ
• นโยบายภาษี โดยปรับขึ้นภาษีสินค้าที่ไม่ดี
เพื่อลดการบริโภคและส่งเสริมให้ ผู้บริโภคหันมาเลือกซื้อสินค้ าที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น
โครงการแก้ไขปัญหาเด็กอ้วน เช่น
• โครงการส่งเสริมสุขภาพในโรงเรี ยน โดยโรงเรียนที่เข้าร่ วมโครงการจะได้รับการประเมิ นตามเกณฑ์ที่กำหนด
• โครงการส่งเสริมสุขภาพในโรงเรี
และจะได้รับรางวัล เพื่อเป็นการกระตุ้นและให้กำลั งใจ
• โครงการ Mai e Nima เน้นการส่งเสริมด้านโภชนาการ 4 ด้าน เพื่อให้เยาวชนและครอบครัวมีสุ ขภาพดี ได้แก่
• โครงการ Mai e Nima เน้นการส่งเสริมด้านโภชนาการ 4 ด้าน เพื่อให้เยาวชนและครอบครัวมีสุ
การส่งเสริมการกินอาหารเช้าที่ ดีต่อสุขภาพ การปรับปรุงอาหารกลางวั นในโรงเรียน การเพิ่มการบริโภคผักและผลไม้
การดื่มน้ำให้เพียงพอ นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการมีกิ จกรรมทางกายอีกด้วย
4. Health and Wellbeing Queensland ประเทศออสเตรเลีย
ปัญหาโรคอ้ วนในประชากรชาวออสเตรเลีย พบว่า 2 ใน 3 ของผู้ใหญ่มีน้ำหนักเกินหรือเป็ นโรคอ้วน ขณะที่ มี 1 ใน 4 ของเด็กในรัฐควีนส์แลนด์
ปัญหาโรคอ้
มีน้ำ หนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน ทั้งนี้ปัญหาโรคอ้วนทำให้รัฐควี นส์แลนด์เสียค่าใช้จ่ายด้านสุ ขภาพสูงถึง 556 ล้านดอลลาร์ต่อปี
ทำให้กลายเป็นภาระต่ อประชาชนชาวออสเตรเลีย ที่ต้องชดเชยค่าใช้จ่ายจากโรคอ้ วนด้วยการเสียภาษีเพิ่มคนละ 678 ดอลลาร์ต่อปี
สะท้อนให้เห็นถึงความรุ นแรงของปัญหาโรคอ้วนในรัฐควีนส์ แลนด์ และผลกระทบที่ตามมาทั้งในด้านสุ ขภาพและเศรษฐกิจ
ออสเตรเลียได้ดำเนินการส่งเสริ มสุขภาพของประชาชนในชุมชน
ออสเตรเลียได้ดำเนินการส่งเสริ
โดยมุ่งเน้นให้ผู้คนสามารถเข้ าถึงอาหารปลอดภัยและกิ จกรรมทางกายที่ส่งเสริมสุขภาพ เช่น
• โครงการ A Better Choice มีเป้าหมายหลักคือการสร้ างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเลื อกอาหารและเครื่องดื่มที่ดีต่ อสุขภาพมากขึ้น
เมื่อรั บประทานอาหารนอกบ้าน
• โครงการ Pick of the Crop ส่งเสริมการกินผักผลไม้ในโรงเรี ยนควีนส์แลนด์ เชื่อมโยงระหว่างโรงเรียนกั บเกษตรกร
• โครงการ Pick of the Crop ส่งเสริมการกินผักผลไม้ในโรงเรี
เพื่อส่งเสริมการบริโภคผลผลิ ตทางการเกษตรในท้องถิ่น และเชื่อมโยงครอบครัวกับชุ มชนเพื่อสร้างการมีส่วนร่ วมในการส่งเสริมสุขภาพของเด็ก
• โครงการ Pod Squad โปรแกรมออนไลน์ที่ออกแบบครอบคลุ ม 3 ด้าน ได้แก่ โภชนาการ กิจกรรมทางกาย และสุขภาพโดยรวม
• โครงการ Pod Squad โปรแกรมออนไลน์ที่ออกแบบครอบคลุ
เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กั บเด็กและครอบครัว
• แพลตฟอร์ม Clinicians Hub ช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ ในการป้องกัน ดูแล และส่งต่อผู้ป่วยที่มีโรคเรื้ อรัง ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก
• แพลตฟอร์ม Clinicians Hub ช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์